วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555


              บางคนคิดว่าการอออกเสียงภาษาอังกฤษทุกคำชัดถ้อยชัดคำน่าจะทำให้ฝรั่งเข้าใจ จริงๆแล้วไม่ใช่นะครับ เพราะฝรั่งไม่เคยชินการออกเสียงประเภทนั้น ภาษาอังกฤษเป็นภาษาประเภท stress timed language ซึ่งหมายความว่าในภาษาอังกฤษ จะออกเสียงเน้นหนักเฉพาะคำที่ต้องการเน้น หรือแสดงความหมายสำคัญเท่านั้น คำที่ไม่สำคัญในประโยคก็จะลดการออกเสียงด้วยการพูดรวบรัดให้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เหมือนมึมมำ อึมอำ กลืนคำเอาไว้ในคอ
          การออกเสียงเน้นหนักของคำในประโยค (Sentence Stress) สามารถเปลี่ยนย้ายคำได้ ขึ้นอยู่กับว่าประโยคที่เราพูดนั้น เราต้องการเน้นอะไร เราก็ออกเสียงเน้นหนักในคำเหล่านั้น
          ส่วนใหญ่แล้วคำที่ให้ความหมายสำคัญในประโยค (content words)  ก็มักจะเป็นคำพวก คำนาม คำกริยา คำวิเศษณ์ คำปฎิเสธ ส่วนคำประกอบที่ไม่สำคัญ  function words  ก็ได้แก่ คำสรรพนาม คำบุพบท คำนำหน้าคำนาม คำสันธาน คำกริยาช่วย ดังรายละเอียดในตารางข้างล่างนี้นะครับ
        ส่วนใหญ่แล้วคำที่ให้ความหมายสำคัญในประโยค (content words)  ก็มักจะเป็นคำพวก คำนาม คำกริยา คำวิเศษณ์ คำปฎิเสธ ส่วนคำประกอบที่ไม่สำคัญ  function words  ก็ได้แก่ คำสรรพนาม คำบุพบท คำนำหน้าคำนาม คำสันธาน คำกริยาช่วย ดังรายละเอียดในตารางข้างล่างนี้นะครับ


                             Content Words
                           Function Words

คำกริยาแท้           Main Verbs
go, talk, writing
คำสรรพนามPronouns
I, you, he ,they
คำนาม Nouns
homework, dinner
คำบุพบทPrepositions
on, under, with
คำคุณศัพท์ Adjectives
big, clever
คำนำหน้าคำนามArticles
the, a, some
คำกริยาวิเศษณ์Adverbs
Quickly ,out
คำสันธานConjunctions
but, and, so
คำปฎิเสธ Negative Aux. Verbs
can't, don't, aren't
คำกริยาช่วยAuxiliary Verbs
can, should, must, have to
คำนิยมวิเศษณ์Demonstratives
this, that, those
คำกริยาVerb "to be"
is, was, am
คำถาม  Question Words
when, which, where




ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเน้นหนักคำ (word stress)

เสียงหนักเบา (Word Stress)
ภาษาอังกฤษนั้นมีความแตกต่างจากภาษาไทยตรงที่ว่า ภาษาอังกฤษนั้นเป็นภาษาชนิด stress language เพราะมีการใช้เสียงหนักเบาทั้งในคำ (word stress) และเสียงหนักเบาในประโยค (sentence stress) เพื่อสื่อความหมาย ส่วนภาษาไทยเป็นภาษาชนิด Tone language เพราะเสียงชัดทุกตัวต่างแต่วรรณยุกต์เท่านั้น เพื่อใช้ในการสื่อความหมายเช่นเดียวกัน

เครื่องหมายแทนเสียงหนักเบา
บางเล่มใช้วงกลมแทนเสียงหนักเบา ดังนี้
วงกลมใหญ่ = เสียงหนัก (stress or strong stress)
วงกลมเล็ก = เสียงเบา (unstress or weak stress)

เสียงหนักเบาในคำ

เสียงหนักเบาในคำนั้น มีหลักเกณฑ์กว้างๆ ดังนี้
1. คำสองพยางค์ที่เป็นคำนาม หรือคำคุณศัพท์ stress ที่พยางค์แรก
     '
con.duct           'rec.ord
2. คำสองพยางค์ที่เป็นคำกริยา stress ที่พยางค์ที่ท้าย
     con.'
duct           rec.'ord
3. คำที่มีสองพยางค์ขึ้นไป หากมีสระเดี่ยวเหล่านี้ /i:, 3:, ae, (เสียงอะ), (เสียงออ), u:/ ก็ให้ stress ได้เลย
ส่วนเสียง เออะ และ I (อิ) ลงเสียงเบาทุกที่ที่มีเสียงนี้

     ex.'
tract            'so.fa            ap.'prove           to.'bac.co
4. คำที่มี 3 พยางค์ขึ้นไป ควรดูที่พยางค์ท้ายว่า ลงท้ายด้วยอะไร
-ถ้าลงท้ายด้วย -al, -ate, -ble, -lly, -lar, -ment, -y, -ty จะลงเสียงหนักที่พยางค์ที่ 3 นับจากท้าย
     e.co.'
no.mi.cal           'ca.pa.ble           'ac.tual.ly
-ถ้าลงท้ายด้วย -ian, -ic, -ish, -sion, -tion, -tive, -tor, -ter จะลงเสียงหนักที่พยางค์ที่ 2 นับจากท้าย
     e.co.'no.mic           es.'tab.lish
5. เสียงหนักเบาในคำประสม
-noun + noun (2 พยางค์) จะ stress ที่พยางค์แรกนะครับ
     '
book case           'foot.print
-noun + noun (3 พยางค์) จะ stress ที่พยางค์แรกเช่นกัน
     '
news.pa.per        'post of.fice
-คำประสมที่มีคำนามอยู่ท้าย จะ stress ที่คำนามตัวท้ายนั้น
     down.'
stairs           first -'class
-คำประสมลงท้ายด้วยคำกริยา จะ stress ที่กริยาตัวท้ายนั้น
     o.ver.
'look            un.der.'stand
-คำประสมประเภทสรรพนามสะท้อน จะ stress ที่พยางค์หลัง
     him.'
self                my.'self
6. คำประเภท two-word verbs จะ stress ที่พยางค์ท้าย
     get 
'up                  look 'up
7. คำ preposition และ conjunction ส่วนมากจะ stress ที่พยางค์ท้าย
     a.'
bout                  be.'hind            with.'in

เรามาดูตัวอย่างการพูดภาษาอังกฤษของคนไทยกันนะครับ